ชีวประวัติคนสู้ชีวิต ณัฏฐ์ธเดช ชัยปกรณ์วงศ์ โจ ก่อนเข้าวงการ ธุรกิจเครือข่าย
สวัสดีครับทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่เรื่องราวชีวิตผมครับ
ผมรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ..นะครับ ที่คุณ..ได้สละเวลามาอ่าน..เรื่องราวของผม
และยินดีที่คุณจะเข้ามาทำความรู้จัก...กับผมมากขึ้น
ผมหวังอย่างยิ่งว่ามุมมองและแนวคิดของผมนั้น
จะมีเป็นประโยชน์แก่คุณบ้าง
ผม ชื่อ ณัฏฐ์ธเดช ชัยปกรณ์วงศ์
ชื่อเล่น โจ
ปัจจุบัน..อายุ 30 ปี
ผมเป็นคนในครอบครัวเชื้อจีน..พื้นเพอยู่ภาคใต้
มีพี่น้อง..3คน โดยผมเป็น..คนโตครับ
จบปริญญาตรี..ทางด้าน...วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
จาก..มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เวลาที่เรียนที่นั้น...เป็นครั้งแรกคับที่ได้..ออกสู่โลกภายนอก
เพราะไม่เคยไปอยู่ไกลบ้านเลย เรียนตั้งแต่เด็ก..จนถึงมัธยมที่..จ.สุราษฏร์
อ๋อ!! อืมบอกไป ผม..เป็นคนจังหวัดสุราษฏร์ธานี
คนใต้.. แต่...ไม่ใจดำนะคับ
ในช่วงที่เรียนอยู่..ก็ได้ทำหลายๆ อย่างในช่วงเรียน
เช่น ทำชมรม ไปเที่ยวต่างจังหวัด และเล่นดนตรี
ผมเคย..เป็นมือกลองในวงดนตรี สมัยเรียนป.ตรี
เป็นวงเฉพาะกิจ..ของเพื่อนในภาคคอม ไม่เก่ง..แต่ชอบมาก
ค่อนข้างบ้าพลังครับ
พื้นฐานการศึกษาของผมนั้น จบ..ป.ตรี ในสาขา..คอมพิวเตอร์
แต่ก็ได้ทำงานด้านที่จบมา..เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประวัติการทำงานผมมีดังนี้ครับ
-ตำแหน่ง Software Developer บริษัท Softsquare International
-ตำแหน่ง Restaurant Manager ร้านอาหารไทย เมือง Brighton ประเทศอังกฤษ
-ตำแหน่ง Project Coordinator บริษัท Miracle Net Group
ชีวิตงานประจำงานแรก Software Developer (นักพัฒนาซอฟ์ทแวร์)
จะเห็นได้ว่า..ประวัติการทำงานของผม
จะไม่ทำงานลักษณะเดิมเลย เหอะๆๆ
งานแรกเป็น..Software Developer หรือ..Programmer นั่นเอง
เขียนโปรแกรม Oracle ทำได้อยู่ครึ่งปี...ก็เบื่อมาก วันๆอยู่แต่หน้าคอมสี่เหลี่ยม
เรียนมาก็อยู่กับมันตลอด4ปี ก็ไม่ได้รังเกียจ..มันน่ะ แต่ไม่ไหวครับ..เอียนมาก
ไม่อยากมาทำงานเลย..เอาแต่รอคอยเย็นวันศุกร์
เพราะรู้สึกว่าเสาร์อาทิตย์..เราจะได้ไปเที่ยว
ได้ไปพัก..ได้ไปดูหนัง..ได้ใช้ชีวิตที่มีอิสรภาพได้ 2วัน
แต่พอเย็น..วันอาทิตย์ กลับรู้สึกเซ็งๆ ไม่อยากให้ถึงเช้าวันจันทร์เลย
ระหว่างทีทำงานนั้น..ก็เห็นเพื่อนๆพี่ๆ..ที่ร่วมงาน ลาออก..ไปเรียนต่อต่างประเทศ
ก็เลยมีความฝันแรก..ในระหว่างการทำงานครับ
ว่าอยากไปเรียน..ภาษาที่ต่างประเทศดูบ้าง
เพื่อ..Upgrade..ตัวเอง ทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดสักเท่าไหร่..ตอนเรียน
คือเฉยๆ ก่อนหน้านี้นะครับ
ก็เตรียมตัว..ดิ้นรนหาทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ
แฮ่ม ไม่ง่ายครับ..เพราะใช้ทุนเยอะ แล้วที่บ้านผมก็ไม่มีทุนหรอก
ก็หาทาง..ทุกทาง ถามคนโน้น..คนนี้ ดูข้อมูลในเน็ต
และมั่นใจ..ว่าเราทำ Visa อังกฤษได้แน่
ก็เลยลาออก..จากงาน เพื่อเตรียมตัวเรียนภาษาเพิ่มก่อน..ไปสัมภาษณ์Visa
แต่ปรากฏว่า..โดนปฏิเสธVisa ซ็อค!..ไปเลยครับ
โลกหมุนเลย..ช่วงนั้น เพราะช่วงนั้นเราเริ่มฝันมาก..
จนกระทั้ง..ลาออกจากงานทั้งๆ งานที่ทำอยู่..ก็ดี
ญาติๆ เพื่อนๆ ก็บอกไปหมดแล้ว จ่ายนุ้น..นี้..นั้นเพียบ
ทำยังไงดี..ก็เลยพยายามดิ้นรน..อีกรอบ
คราวนี้ตั้งใจ..เตรียมทั้งเอกสารและตัวเอง..อย่าง Perfect ที่สุด
สุดท้ายก็ผ่าน Visa แต่..กินเวลาไปหลายเดือน..เกือบครึ่งปีเลยทีเดียว
ก็ได้ไปเรียนที่อังกฤษสมใจ.. เฮ้อ! เกือบไป
บทเรียนแรกในชีวิตช่วงนี้ที่ได้รับ คือ ถ้าเรามีความฝันตั้งใจจะทำอะไรแล้ว
เราต้องเรียนรู้ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนลงมือทำ และอย่าล้มเลิกกลางคัน
ถึงจะมีอะไรมาเป็นอุปสรรค เพราะเราอาจมานั่งเสียใจภายหลังชั่วชีวิตได้
ชีวิตงานประจำงานที่ 2 Restaurant Manager (ผุ้จัดการร้านอาหาร)
ช่วงที่ไปอยู่อังกฤษ..ต้นๆ เอาเงินติดตัวไปแค่..ไม่กี่หมื่นบาท
เพราะมีเหลือแค่นี้จริงๆ จ่ายไป..หมดตัว นี้ขนาดกู้ยืมมาด้วยน่ะเนี้ย
หวังว่าจะไปทำงานหาเงินที่นั้น เรียนไป..ทำงานไป
เพราะหาข้อมูล และติดต่อหาที่ทำงานไว้ล่วงหน้าไว้แล้ว
คือจ่ายค่าเรียนไว้ล่วงหน้า..ไม่กี่เดือน ถ้าไม่จ่ายต่ออีก
ก็เตรียมตัวกลับไทยได้เลย แต่โดน..ไล่กลับนะคับ
เริ่มแรกเลย..ก็มาเป็น..เด็กล้างจาน 555 ..ก็ทำใจมาอยู่แล้วครับ
ก็ยังพูดอังกฤษไม่เป็นนิ จริงๆ..งานบ้านอะไรผมก็ไม่ได้รังเกียจมาก
แต่เรื่องล้างจาน..ผมเกลียดที่สุดเลย แต่ทำไงได้ มันต้องทำก็ทำครับ
ก็ได้เรียนรู้อะไร..มากเหมือนกัน ถึงจะมา..ล้างจาน
เพราะตั้งแต่..มาที่อังกฤษนี้ ผมก็พยายาม Active เรียนรู้ทุกอย่าง
เพราะรู้ถึงค่าของการที่มา ว่าไม่ได้มาง่ายๆ น่ะ
ก็พยายาม..ฝึกพูดอังกฤษ ฝึกฟัง..อยู่ตลอด
และตั้งใจเรียนใน Class เรียน
แต่เราก็เหนื่อยมาก..เพราะต้องทำงานถึงตี1-2 ทุกวัน
และต้องไปเรียน 9 โมงเช้า แต่ที่ทำงาน..กับที่เรียนห่างกัน1ชั่วโมงกว่าๆ
นอนไม่กี่ชั่วโมง..ทุกๆ วัน
ทีสำคัญ..ผมเองต้องทำงาน 6 วัน เพื่อส่ง..ตัวเองเรียน 5 วัน
และเก็บเงินไว้..จ่ายหนี้..ที่กู้ตอนมาจากเมืองไทยไว้ด้วย
ก็ทำให้ทำงานหนัก..มาก จนร่างกายไม่ค่อยไหว ป่วยบางครั้ง
เพราะอากาศที่หนาว..และฝนตก แต่ก็..หยุดไม่ได้ครับ ก็ต้องสู้ๆ..กันไป
หลังจาก..ล้างจานได้ 2 เดือน ร่างกาย..เริ่มปรับตัวได้
เริ่มชิน และเริ่มที่จะ..ฟังภาษาอังกฤษคำง่ายๆ ได้แล้ว
(ผมก่อนมาอังกฤษ..โง่อังกฤษมากๆ ฟังไม่ได้เลยครับ พูดก็ผิดๆ ถูกๆ)
ทางร้านเห็นเรา..ขยัน ไม่เคยหยุด (ก็หยุดไม่ได้..เงินไม่พอใช้ 555)
ก็เลยให้มาช่วย..ในครัว คราวนี้มีหน้าที่เป็น..ผู้ช่วยกุ๊ก
ตายละสิ ชาตินี้..ทำอาหารเป็นแค่ 2 อย่าง คือ ไข่เจียว..กับไข่ดาว
แล้วก็ไม่อร่อยด้วย 555 จะไปรอดไหมเนี้ย..แต่ก็เลยลองทำไป
ก็ทำได้ครับ ก็เพราะเราต้องเอาตัวรอด..ให้ได้
ซึ่งในระหว่างนี้..ผมเองก็ต้องไปช่วย..ล้างจานด้วยนะครับ
คือเงินเท่าเดิม..แต่หน้าที่มากขึ้น
แต่ได้มีโอกาสในการเรียนรู้การทำอาหาร..และสนิทกับเจ้าของร้านมากขึ้น
ที่สำคัญ..เค้าเริ่ม..ให้ผมทำกับข้าวเอง และเอาไปทาน..ตอนไปเรียนได้ด้วย
ว้าว..ทำให้ประหยัดเงินมากขึ้น เงินเก็บมากขึ้น
ก็เป็นผู้ช่วยพ่อครัวอีก 2 เดือน คราวนี้ทางร้าน..ก็เอาเราไปหน้าร้านแล้ว
อืม.. ก็เริ่มพูดเป็นและฟังพอได้ แต่ก็ขอบอกว่า..ยังแย่กว่ามาตรฐานอยู่
ให้ผมไปเป็น Waiter หรือเด็กเสริฟนั้นเอง..
ซึ่งที่นี้Waiter ต้อง..เป็นมืออาชีพมากๆ
เพราะต้องเก่ง รู้อาหาร รู้การจัดโต๊ะ รู้มารยาท
รู้การทักทาย รู้การเสริฟไวน์ และอื่นๆ อีกเยอะมาก
(โอ้..ทำไมไม่เหมือนเมืองไทยน่ะ ไม่เห็นต้องทำอะไรมาก
ยืนเฉยๆ..ดูแลแค่โต๊ะ 2โต๊ะ) และที่สำคัญ..เราต้องดูแลคนเดียวเกือบ 10โต๊ะ
(ค่าแรงที่นี้..แพงมาก คนเป็นWaiterต้อง..เก่ง และดูแลคน..ได้เยอะ
จะไม่มีเวลายืนเฉยๆเลย..จนร้านปิด)
ชีวิตในช่วงนี้..สนุกมาก เพราะเราได้ฝึกอะไรมากขึ้นเยอะ
แต่ก็ว่าอีกแหละ ร่างกายก็ใช้..งานหนัก มีอาการแพ้โน้น..นี้..นั้น
ปวดหัว ปวดท้อง ไข้ขึ้น โดยไม่มีสาเหตุ..บ่อยๆ ก็สู้ๆ..กันไป
ก็ทำงานหน้าร้านได้อีก..2เดือน ทางร้านก็..Promote
ให้เป็นบาเทนเดอร์ ควบWaiter
(บางเวลาก็ต้องไปล้างจานด้วย ถ้าล้าง..ไม่ทัน 555)
คราวนี้ ชงเหล้า..เปิดไวน์..แชมเปน..กันสนั่น
ทั้งๆ..ที่ผมเองก็ไม่ค่อยดื่ม..พวกแอลกอฮอล์สักเท่าไหร่ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี
และอีก..2เดือนก็ได้ถูกโปรโมท..เป็น Restaurant Manager เลย
แทนคนเก่า และดูแลทุกคน..ในร้านหมด
อืม..8เดือนเอง ทำไม..ไวขนาดนี้ ได้ครองร้านเลย
ทำงานหนัก..มาก แต่รายได้ก็..เพิ่มขึ้น และได้มีลุ้น..Tip ทุกๆ วัน
เพราะตอนนี้มีลูกค้าติดเราแล้ว
ทุกอย่างก็ไปได้สวยดี จนครบปีกว่าๆ ร่างกาย..ไม่ไหว
เริ่มป่วย..ชนิดนอนซมเป็นอาทิตย์ แล้วมันก็กระทบ..ถึงงานที่ร้าน
เค้าเอง..ก็เดือดร้อน ต้องหาคนมาแทน..โดยไม่บอกเราก่อน
สุดท้าย..กลับไปอีกครั้ง มีคนมาแทนซะแล้ว
แถมให้เราสอนงานให้เค้าด้วยนะเนี้ย..
แล้วให้เราเป็น Delivery Man ขับรถ..ส่งอาหารแทน แป่ว!
ก็ทนทำ..ต่อได้ระยะหนึ่ง ช่วงนั้น..พ่อไม่สบาย เบาหวานกำเริบ
ทางบ้านก็ให้กลับ..ก็เลยกลับไทย หลังจากเรียน..และทำงานอยู่ปีกว่าๆ
บทเรียนที่ 2 ในชีวิตช่วงนี้ที่ได้รับ คือ ความสำเร็จของคนเรา...จะแปรผันตามความคุณลักษณะที่เราเป็น ดังนั้น..เราควรพัฒนาตัวเองให้สูงไว้ เพื่อจะได้..มีความสำเร็จที่สูงตามตัวเรามา และชีวิตลูกจ้าง ห้ามลา..ห้ามป่วย..ห้ามตายเด็ดขาด! เพราะเค้า..จะมีคนมาแทนคุณได้ทันที ถึงแม้คุณจะอยู่กับเค้ามานาน..ขยันตั้งใจ..หรือเก่งขนาดไหนก็ตาม เฮ้อ!
ชีวิตงานประจำงานที่ 3 Project Coordinator (ฝ่ายประสานงานธุรกิจต่างประเทศ)
งานนี้เริ่มต้น..ตอนกลับมาไทย ก็สมัครงานทาง Net เลย
ไม่อยากเป็น Programmer แล้ว เครียดจะตาย..งานแบบนี้ (ความเห็นผมน่ะ)
ต้องการ..งานที่ทำงานเป็นฝ่ายประสานงาน ดูแลความต้องการของลูกค้า
และเลือกบริษัทที่เราติดต่อลูกค้าต่างประเทศด้วย
เพราะต้องการใช้ภาษาอังกฤษ ที่ฝึกมาที่โน้นให้คุ้มค่า
และจะได้ไม่ลืมไป ซึ่งทุกคนคงรู้กันอยู่แล้วว่า
อะไร..ที่ไม่ได้ใช้งานนานๆ ก็มักจะลืม
ดังนั้นถ้าเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ มีหวังคืนอาจารย์..ที่โน้นหมดแน่ๆ
ทางบริษัทได้รับข้อมูลผม แล้วก็ติดต่อมาค่อนข้างไวมาก
ส่งตอนเช้า..โทรมาตอนบ่าย คงเพราะเรามีประวัติที่อังกฤษ
ที่ซึ่งเป็นลูกค้าโดยตรงของเค้าด้วย ก็เลยไปสัมภาษณ์
และก็ได้รับเข้าทำงานอีกไม่กี่วันต่อมา ค่อนข้าง..ไวกว่าที่คิด
เพราะบริษัทแรก..รอกันเป็นเดือน
ก็เริ่มทำงานไป ลักษณะงานคือ..ติดต่อดูแลลูกค้ารายใหญ่ที่เป็นชาวอังกฤษ
และมีเครือข่ายในยุโรบ ที่ซึ่ง..มาตรฐานสูงมาก
ทำงานที่ร้านอาหารที่โน้น มันเป็นงานที่ไม่ทางการ
เพราะร้านอาหาร ใครๆ ก็อยากผ่อนคลาย..ทำสบายๆ
แต่พอเป็นการทำงานทางการแบบนี้ มัน..มีความกดดันมาก
ปัญหาโน้นนี้นั้น..อะไรไม่รู้ ลูกค้าเอาใจตัวเอง..จนปวดหัว
อยากได้โน้นได้นี้ 24 ชั่วโมง
เพราะบริษัทลูกค้าเป็นงาน Online ที่ต้องการฝ่าย Support
ก็เลยต้องทำ OT ด้วย รวม..เป็นทำงาน 12 ชั่วโมง
ช่วงนี้รายได้ก็เพิ่มขึ้นนิดหน่อย..ตามOT โดยต้องทำงานจนดึกถึงเที่ยงคืน
แต่กลับไปนั่งทำที่บ้านได้ ทำงานผ่านระบบ Internet ของบริษัท
ซึ่งเป็นระบบการทำงานที่วางไว้..ดีมาก
เพราะมีรุ่นพี่..ที่เป็นหุ้นส่วนของบริษัทเป็น TOP 1-3 เกียรตินิยมอันดับ1
จากวิศวะคอมพิวเตอร์จุฬา 3 คนมาวางระบบ..ร่วมกัน
ทำให้ทุกอย่าง..สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ที่มี Internet
ก็เริ่มรู้สึกว่า..การทำงาน Online ที่ทำที่บ้าน ผ่าน Internet แบบนี้
ทำให้เรารู้สึกสนุกกับงานมากขึ้น มีเวลาไปนั่งทำงานที่ไหนก็ได้
เป็นช่วงเวลาในการทำงาน..ที่มีอิสระเหมือนพวกโฆษณาบัตรเครดิต
ที่ผู้ใช้บัตร..ไปนั่งทำงานตามชายหาด ขายความอิสระ ที่ประเมินค่าไม่ได้
อะไรประมาณนั้น เหอะๆๆ
บทเรียนที่ 3 ในชีวิตช่วงนี้ที่ได้รับ คนทำงานประจำ..จะได้รายได้แปรผันไปตามเวลาที่ทำงาน คือลูกจ้างต้องแลกเงินกับเวลา แต่คนสร้างระบบ..กลับได้รายได้ตามผลกำไร และไม่ต้องทำงานเอง มีอิสรภาพทางด้านเวลา และเริ่มค้นพบว่า..ตัวเองชอบงานที่อิสระ ไม่ชอบการไปทำงานแต่เช้า วิ่งให้ทันตอกบัตรเข้างาน และมี ความยืดหยุ่นในเรื่องสถานที่การทำงาน ไม่ถูกจำกัดเรื่องเวลาและรายได้
ชีวิตที่ 4 ชีวิตที่เปลี่ยนไปเมื่อพบกับธุรกิจเครือข่าย….ความฝันมาบรรจบ
ทำงานประจำ..เป็นฝ่ายประสานงานธุรกิจนี้ได้ปีกว่าๆ
โดยระหว่างนี้ก็ได้ไปเรียนภาษา..ช่วงเสาร์อาทิตย์
เพิ่ม4 คอร์สในระยะเวลา 1 ปี
เพื่อกะจะได้ Up เงินเดือนเรา..ตอนย้ายบริษัท
เพราะช่วงนี้..เริ่มมองหาโอกาสที่จะเพิ่มรายได้แล้ว
เพราะไปผ่อนคอนโต..เดือนละหมื่นกว่าๆ
แต่คำนวณแล้วว่าจะกว่าจะผ่อนหมด 25 ปี ถ้าเป็นอย่างงี้..ไม่ไหว
แต่โอกาสใหม่ที่มอง..ก็เป็นงานประจำที่มีเงินเดือนสูงขึ้น
คือกะจะเป็นลูกจ้างมืออาชีพครับ
ผมได้ฟังแอมเวย์..ครั้งแรก สมัยเรียน..ปี2 (เกือบ10ปีก่อน)
แต่ยังไม่เข้าไปศึกษาอะไรมากนัก นั่งฟังเฉยๆ ธุรกิจฟังดูดีครับ
แต่ไม่ตื่นเต้นสักเท่าไหร่..ดูธรรมดาๆ
(เป็นความคิดเห็นของผม ณ ตอนนั้นนะคับ..ใครทำอยู่อย่าว่ากัน)
ต่อมา..ผมได้มีโอกาสรู้จัก Herbalife ตอนทำงานช่วงนี้แหละ
โดยมีเพื่อนผมคนหนึ่งได้เริ่มเข้าไปทำ
ตอนแรก..มันก็ชวนผมไปฟังโอกาสทางธุรกิจครับ
แต่ไม่บอกว่าเป็นงานอะไร
แต่ช่วงนั้น..ผมเองก็ต้องการมีรายได้เสริมเพิ่มขึ้นจริงๆ
คือคิดไว้สักประมาณ 5000 บาท เท่านั้นเองคับ
เอาไว้..ผ่อนคอนโดเพิ่ม ก็เลยลองเข้าไปฟังดูครับ
ก็ประหลาดใจกับที่แต่ละคนที่ออกมาแชร์ว่ามีรายได้..หลายหมื่น
หลายแสน..และเป็นล้าน ทั้งๆที่เพิ่งทำกันมาไม่ถึงปี
ทำให้..ถึงกับนอนไม่หลับ
เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่า..ถ้าทำสำเร็จ
ชีวิตนี้คงสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุยังไม่เกิน..30 แน่นอน
เพราะรายได้หลักแสน..ที่ผมคิดว่าจะได้ คือตอนผมอายุสัก..40
ตามแผนการทำงานประจำที่ผมวางแผนไว้ (ถ้าทำได้น่ะ)
และเหตุผลที่สำคัญ..ที่สุด ที่ผมตัดสินใจทำ เพราะองค์กรนี้มี
ระบบการทำงานกับคนไม่รู้จักทาง Internet ซึ่งผมเองมีคนรู้จักน้อย
และพูดโน้มน้าว..ไม่เก่ง ก็น่าจะสำเร็จได้
ในที่สุด..ผมก็เริ่มเข้าธุรกิจด้วยการลงทุนด้วยเงินเกือบ..แสนบาท
พร้อมผลิตภัณฑ์กองเต็มบ้านครับ แล้วลาออกจากงาน..มาทำเต็มตัว
โดยไม่ปรึกษาใคร..บ้าไปแล้ว เหอะๆๆ
แล้วผมก็มุ่งมั่นทำอย่างเต็มที่ แต่เพื่อนคนที่ชวน..กลับเลิกทำในเดือนถัดไป
ซวยละสิเรา! เพราะมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ทำเกือบปี ก็เลิกทำไปครับ
เพราะผมรู้สึกว่า เป็นวิธีทำงาน..ที่มีความกดดันสูงเกิน..คนธรรมดาจะทำได้,
รายได้ได้จริง..แต่รายจ่ายพอๆกับรายได้, ทำงาน7วัน ประชุมดึกๆ
ถึงตี 1-2 เกือบทุกวัน ไร้ซึ้งอิสรภาพ..ทางด้านเวลาอย่างสิ้นเชิง
และที่สำคัญ..บอกข้อมูลไม่หมดตั้งแต่แรก
คือบอกข้อมูลที่ไม่ดี..ทีละนิดๆ กว่าจะรู้ความจริง..หลายอย่าง
ทำให้เราช็อคไม่รู้กี่ครั้ง และเราต้องไปทำกับคนอื่นๆ
แบบนี้ไปเป็นทอดๆ อีกครับ มันเป็นงาน..ที่ไร้ซึ่งความสุขจริงๆ
แต่ต้องขอบคุณจริงๆ กับธุรกิจเครือข่ายตัวแรกในชีวิต
ที่ทำให้ผมมีแนวคิด..และทักษะในการทำธุรกิจ
เป็นประสบการณ์ที่มีค่า หาซื้อที่ไหนไม่ได้
ทำให้ผมและทีมงานในอนาคต..ไม่มีทางเดินผิดพลาดตามรอยเดิมแน่นอนครับ
จะดีไหมครับ? ถ้ามีงานบางอย่างที่เราลงมือทำอย่างพากเพียรครั้งเดียว
แล้วมีผลตอบแทนกลับมาตลอด จนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน?
งานที่ว่า นั้นก็คือ..ธุรกิจเครือข่ายนี้เองครับ
ที่ผมเชื่อมั่นขนาดนี้ เพราะตอนผมทำ Herbalife
เคยเจอและพูดคุยกับผู้นำที่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ว่าจริงๆ
แต่ไม่ใช่คนไทย..ครับ เป็นชาวต่างชาติ
ทำธุรกิจมา..ไม่ต่ำกว่า 15-25 ปี
มีรายได้..ไม่ต่ำกว่า 3-5 ล้านบาทต่อเดือนหรือมากกว่านั้นมาก
ไม่ต้องทำอะไร มีหน้าที่ใช้เงิน เที่ยว และใช้ชีวิต..ที่มีอิสรภาพอย่างแท้จริง
ซึ่งกลุ่มผู้นำเหล่านี้..มีเป็นร้อยกว่าคนที่ผมได้พบเห็น
ดังนั้นทำไม..ถึงไม่ใช่เราบ้างในอนาคต ผมคิดแบบนี้ครับ
ดังนั้น ถ้าบางคนมาบอกว่า..ธุรกิจเครือข่ายยากที่จะเกษียณได้จริง
แบบที่ผมว่า..ผมก็ยืมคำพูดจาก The Secret ที่ว่า
“คุณจะคิดว่าใช่..หรือไม่ใช่.. มันก็ถูกทั้งนั้น
เพราะคุณ..จะได้ผลลัพธ์อย่างที่คุณคิด”
ซึ่งจากประสบการณ์ของผมเอง..ค้นพบว่า
คุณลักษณะ..ของผู้ที่สำเร็จจากเครือข่าย
จน..เกษียณตัวเองได้ขนาดนี้
มีคุณสมบัติที่เหมือนกัน..ดังต่อไปนี้ครับ
1. ผู้นำเหล่านี้ เลือกทำบริษัทที่ถูกต้อง
ซึ่งเริ่มต้นในตอนแรกก็ไม่รู้ชะตากรรม
แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยและสร้างให้บริษัทนั้น
ให้มีความมั่นคงอย่างมากในเวลาต่อมา ณ ปัจจุบัน
บริษัทเหล่านี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 15-60 ปี เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่
คงไม่ใช่แค่เลือกถูกแล้วอยู่เฉยๆ แล้วจะสำเร็จเหมือนแทงหวยนะครับ
เพราะบางคนเลือกถูกแล้วแต่ไม่ทำและอยู่ไม่ยาว
2. ผู้นำเหล่านี้ ทำธุรกิจระยะยาว แค่ทีละบริษัท
และไม่ย้ายไปย้ายมา เมื่อมั่นใจว่าเจอบริษัทที่ใช่แล้ว
และใช้เวลาทำธุรกิจจริงจังมากถึง 5-15 ปีขึ้นไป
ถึงเกษียณชนิดปล่อยได้เลย
แล้วมาโบกไม้โบกมือให้กำลังใจผู้คนแค่ปีละครั้ง
3. ผู้นำเหล่านี้ ทำธุรกิจหลายประเทศ
ไม่ใช่มีธุรกิจแค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง
ที่ผมพบส่วนใหญ่มากกว่า..4 ประเทศ
ซึ่งจากการวิจัย..พบว่า ผู้นำ..ที่ทำแค่ประเทศเดียว
ไม่มีโอกาสได้เกษียณ แต่อาจ..มีโอกาสได้พักผ่อนบ้างเท่านั้น
เนื่องจากบางเวลาเศรษฐกิจบางประเทศ..อาจไม่ดี
แต่เราก็ยังมีรายได้..จากประเทศที่ยังเศรษฐกิจดีอยู่
แต่ถ้าไม่ดีกันหมด ก็มีรายได้..จากหลายประเทศ
ก็เหมือนเก้าอี้มี 4 ขา ยังไงก็ยัง..มั่นคง
แต่ขาน้อยกว่านั้น คงนั่งไม่ติดก้นใช่ไหมครับ
4. ผู้นำเหล่านี้ ไม่ได้เป็นคนเก่งมาแต่ก่อน
แต่ทุกคนสู้ชีวิต อดทนรอความสำเร็จ
เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง..ขึ้นมาเรื่อยๆ
พร้อมกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น
อย่างผู้นำคนหนึ่ง..ที่ผมประทับใจมาก เป็นกรรมกร
คนเก็บขยะในตลาด และคนส่งปลาจากท่าเรือ
อยู่ที่ฮ่องกง ทำ 3 งานในเวลาเดียวกัน
แล้วทำเครือข่ายเป็น Part-time ในช่วงแรก
ตอนนี้รายได้ 3-4 ล้านบาทต่อเดือน แต่ทำมากว่า 15 ปีถึงได้นะครับ
5. ผู้นำเหล่านี้ มีวินัยและเป้าหมายในชีวิตอย่างชัดเจน
ว่าจะสำเร็จไปเพื่ออะไร
ไม่ใช่แค่..อยากร่ำรวยลอยๆ เฉยๆ
และสามารถ..สร้างแรงบันดาลใจ
ให้กับทีมงานของเค้าจากเรื่องราวของเค้าได้
เพราะถ้าใครทำเครือข่ายแล้วมองแต่..เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว
คนนั้นก็จะไหลไปตามข้อเสนอเรื่องเงินอย่างง่ายดาย
หาหลักปักฐานไม่เจอ เอาแน่เอานอนไม่ได้
6. ผู้นำเหล่านี้ ยอมรับการทำงานเป็นทีม
รักและช่วยเหลือ..ซึ่งกันและกันในทีมเป็นอย่างดี
ไม่มีรวยแค่คนเดียว รอดแค่คนเดียว ทำอยู่คนเดียว
เพราะสิ่งนั้น..ไม่ใช่เครือข่ายระยะยาวแน่นอน
7. ฯลฯ อื่นๆ อีกมากมาย ถ้าคุณ..ได้รู้จักผมมากขึ้น
ปัจจุบันผมเลือกทำธุรกิจเครือข่ายแห่งหนึ่ง
ที่ ผ่านการวิเคราะห์และวิจัยมาเป็นอย่างดี
พร้อมทั้ง สร้างระบบขึ้นมาเอง โดย..ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือ
ประยุกต์ใช้อินเตอร์เน็ตให้ทำงานง่ายขึ้นจริงๆ
ผมเองจะนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ ต่างจังหวัด..หรือต่างประเทศ
และบทความที่คุณกำลังอ่านนี้..ผมก็พิมพ์ขึ้นตอนอยู่ต่างประเทศครับ
ณ ขณะนี้ ผมประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
และสามารถใช้ชีวิต..แห่งอิสรภาพได้บ้างแล้วครับ
มีอิสรภาพด้านการเงิน..เวลา..และพร้อมสุขภาพที่ดีด้วย
เช่น ตื่นนอนตอนอยากตื่น เที่ยงๆ สายๆ ก็ได้,
ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ (3-4 ครั้งต่อปี)
ได้ใช้..เวลากับครอบครัวได้มากขึ้น, กำหนดเวลาทำงานของตัวเองได้
และเชื่อมั่นว่าในระยะเวลาไม่เกิน..5 ปี
ผมสามารถหยุดทำงานได้ ในขณะที่..ยังคงมีรายได้เรื่อยๆ
และมีแต่จะเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
ผมชอบทำงานอะไรสักอย่างแล้ว..ม้วนเดียวจบ! ครับ
ไม่อยากมาเริ่มต้นใหม่อยู่เรื่อยๆ
ดังนั้น ผมต้อง เลือกธุรกิจเครือข่าย
ที่จะทำอย่างพินิจพิเคราะห์อย่างที่สุด
แน่นอนครับว่า..ผมสามารถใช้วิธีการทำงาน
แบบ Work Smart ของผมนี้ได้กับ ธุรกิจเครือข่ายใดๆก็ได้
แต่เป็นการดีที่..ผมจะร่วมกับธุรกิจเครือข่าย
ที่จะนำพาให้ตัวเองและทีมงานเกษียณ..ในอนาคตได้
ตามข้อแนะนำ..จากปรมาจารย์ทางการตลาดของโลก
คุณปีเตอร์..ดักเกอร์
ซึ่งบริษัทที่ผมเลือกมีองค์ประกอบที่ครบถ้วนทั้ง 7 องค์ประกอบ ดังนี้
1. ความมั่นคงและภาพพจน์ของบริษัทที่สูงระดับโลก
2. นวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ที่มีจุดขาย ไร้คู่แข่ง
คุณภาพสูง ได้ผลลัพธ์จริง
3. แผนจ่ายผลตอบแทนเริ่มด้วยการทำ Part-time,
คนไม่เก่งมากก็ทำได้, และขยายธุรกิจไปได้ทั่วโลก
4. อยู่ในแนวโน้มที่สุดยอดของโลก คือสุขภาพ
5. จังหวะเวลาเริ่มต้น เป็นผู้บุกเบิกกลุ่มแรกๆ ของไทยหรือเอเชีย
6. ทีมงานที่มีจริยธรรมและระบบ Support ที่ดี ทั้ง Online/Offline
7. การบริหารจัดการที่เป็นมืออาชีพ ประสบการณ์เป็น 20 ปี
สิ่งเหล่านี้ทำให้เกมส์สร้างธุรกิจเครือข่ายของผม..เป็นต่อขึ้นมาครับ
และผมได้รวบรวมความรู้..และประสบการณ์ออกมาเป็น..บทความ
ซึ่งผมแนะนำให้คุณได้ลองติดตามอ่านดูครับ
บางส่วนผมกลั่นออกมาจากประสบการณ์และใจจริง
ซึ่งอาจดูขัดกับความคิดหรือเรื่องราวที่ได้ยินมาบ้าง
แต่ผมเชื่อมั่นว่า..เป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ
ผมยังเขียนไม่จบ ครับ กำลังเขียน..มันไปเรื่อยๆ
โปรดกลับมาอ่านใหม่นะครับ
อ้อ ก่อนจะจากกัน ขอฝากVDO บันทึกภาพ
ในการประชุมที่หอประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ ที่ผมได้ถูกเชิญขึ้นแชร์ประสบการณ์
ประวัติ ภาพความสำเร็จและเคล็ดลับความสำเร็จของผมไว้
ความยาวประมาณ 30 นาที หลังจากได้ดู ทุกท่านก็จะได้รู้จักผมมากขึ้น
Click!! ที่ VDO ด้านล่างได้เลยครับ
ถ้า VDO ไม่โหลด/โหลดช้า ให้กด Pause แล้วปล่อยให้โหลดสักครู่ 2-5 นาที แล้วกลับมาเล่นใหม่อีกครั้ง
** รู้จัก และ เรียนรู้ธุรกิจเครือข่ายที่ผมเข้าร่วมได้ที่ : คลิกที่ agel นี่เลยครับ **
ณัฏฐ์ธเดช ชัยปกรณ์วงศ์
Tel. 089-7245662, 086-3294797 (24Hour)
ถ้าเกิดไม่รับอาจติดประชุม โทรกลับทุกสายแน่นอนครับ
ท้าพิสูจน์! โอกาสธรุกิจ Agel ต้นสายเอเซีย